ผู้นำนวัตกรรมที่อยู่อาศัย SCG จับมือร่วมกับ แสนสิริ และ Green Partnersมุ่งพัฒนา Sustainable Home บ้านเพื่อความยั่งยืนแห่งแรกของไทย

ผู้นำนวัตกรรมที่อยู่อาศัย SCG จับมือร่วมกับ แสนสิริ และ Green Partnersมุ่งพัฒนา Sustainable Home บ้านเพื่อความยั่งยืนแห่งแรกของไทย

           เอสซีจี สมาร์ทลีฟวิง เดินหน้าพันธกิจในการสร้างสังคมยั่งยืนตามแนวทางของ SCG ด้วยการร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Sansiri Sustainable Home – Prototype 1 โครงการบ้านที่มุ่งเน้นความยั่งยืนและคุณภาพชีวิตที่ไม่สร้างผลกระทบต่อทั้งคนและสิ่งแวดล้อม“โดย แสนสิริ เลือกใช้ผลิตภัณฑ์รักษ์โลก ฉนวนกันความร้อน รุ่น STAY COOL ของ SCG เป็นผลิตภัณฑ์นวัตกรรมบ้านเย็น (Cooliving Design) ที่ช่วยลดอุณหภูมิและสะท้อนรังสีความร้อน ทำให้บ้านเย็นสบาย แม้ในสภาพอากาศร้อนของประเทศไทย”

            ฉนวนกันความร้อน เอสซีจี รุ่นSTAY COOL ฉนวนใยแก้วรักษ์โลกผลิตจากขวดแก้วใสรีไซเคิล 100% ผ่านการรับรองความปลอดภัยสูงสุดต่อสุขภาพตามมาตรฐานยุโรป EUCEB (EUropean CErtification Board for mineral wool products) รายแรกในอาเซียน สามารถป้องกันและสะท้อนรังสีความร้อนจากโถงหลังคาเข้าสู่ตัวบ้านผ่านฝ้าเพดานได้ ซึ่งช่วยลดอุณหภูมิได้ 1-4 องศา ทำให้ประหยัดค่าไฟจากเครื่องปรับอากาศสูงสุดถึง 47% ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 420 ล้านกิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์ (ในระยะเวลา 15 ปีที่ผ่านมา) เทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ถึง 29 ล้านต้น และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมรับรองด้วยฉลาก Green Choice, ฉลากประหยัดพลังงานประสิทธิภาพสูง และฉลากรับรองคาร์บอนฟุตพริ้นท์ (Carbon Footprint Label) เพื่อก้าวสู่อนาคตที่อยู่อาศัยคาร์บอนต่ำ โดย Sansiri Sustainable Home-Prototype 1 โดดเด่นด้วยนวัตกรรม 4 ด้าน ที่ออกแบบโดยคำนึงถึงผู้อยู่อาศัยและสิ่งแวดล้อม เป็นหลัก

  1. Health and Well-being Design (การออกแบบเพื่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี)

เป็นบ้านปลอดฝุ่นด้วยนวัตกรรมการกรองอากาศและฆ่าเชื้อโรคระบบแรงดันบวกที่ป้องกันฝุ่นและมลพิษจากภายนอกแพร่เข้าสู่ตัวบ้าน เลือกใช้วัสดุปลอดภัย Zero VOC ไม่ปล่อยสารระเหยที่เป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจและสุขภาพของผู้อยู่อาศัย

  1. Cooliving Design (นวัตกรรมบ้านเย็น)

ด้วยการออกแบบตามหลักธรรมชาติ คำนึงถึงทิศทางของภูมิอากาศ แสงแดด ทิศทางลมและฝน มีการเลือกใช้วัสดุพิเศษ ที่ช่วยลดอุณหภูมิและสะท้อนรังสีความร้อน ทำให้บ้านเย็นสบายแม้ในสภาพอากาศร้อนของประเทศไทย

  1. Resource Efficiency (การใช้ทรัพยากรให้ได้คุณค่าสูงสุด)

มีการติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์ ช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้าได้ถึง 83% ตามการคำนวณด้วยโปรแกรมประเมินประสิทธิภาพพลังงานของอาคาร รวมถึงระบบบริหารจัดการน้ำอัจฉริยะ สามารถบำบัดน้ำได้ถึง12,450 ลิตรต่อเดือน เพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ในการรดน้ำต้นไม้และทำความสะอาดพื้นที่ภายนอก เทคโนโลยีเหล่านี้ช่วยให้ผู้อยู่อาศัยประหยัดค่าไฟฟ้าและค่าน้ำได้อย่างมีนัยสำคัญในระยะยาว

  1. Green Materials (การใช้วัสดุรักษ์โลก)

ใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม กว่า 70% งานสถาปัตย์ งานตกแต่งภายใน งานระบบ ทุกการสั่งซื้อจากคู่ค้าต้องคำนึงถึงกระบวนการผลิตที่ยั่งยืน

          ความร่วมมือนี้เป็นการผสานจุดแข็งของทั้ง SCG โดยคุณจิรภา นวลอุทัย Housing Material Component Product Manager ตัวแทนจาก Housing Product Solution Business, SCG Smart Living Businessพร้อมด้วยผู้บริหารจาก แสนสิริ รวมไปถึง Green Partners แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และยังคำนึงถึงคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าให้กับผู้อยู่อาศัย ทั้งด้านสุขภาพ ความสบาย และความคุ้มค่าในระยะยาว ให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม

ข่าวเกี่ยวข้อง