ทีเอ็มบี เอสเอ็มอี ส่ง 3 ดิจิทัลโซลูชันสุดล้ำ เสริมแกร่งเอสเอ็มอีไทย

ทีเอ็มบี เอสเอ็มอี ส่ง 3 ดิจิทัลโซลูชันสุดล้ำ เสริมแกร่งเอสเอ็มอีไทย

ทีเอ็มบี เอสเอ็มอี ส่ง 3 ดิจิทัลโซลูชันสุดล้ำ
เสริมแกร่งเอสเอ็มอีไทย ให้เติบโต “ได้มากกว่า”
 
กรุงเทพฯ, 22 มีนาคม 2562 - ทีเอ็มบี เอสเอ็มอี เผยทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2562 เน้นตอบโจทย์ รู้จริงแก้ปัญหาหลักของเอสเอ็มอีไทย ทั้งปัญหาเรื่องการจัดการธุรกรรมการเงิน การบริหารจัดการพนักงาน และการเข้าถึงแหล่งเงินทุน เพื่อคว้าโอกาสทางธุรกิจได้ทันเวลาที่ต้องการ โดยมีแนวทางการพัฒนา 3 ดิจิทัลโชลูชันเพื่อเอสเอ็มอี ได้แก่ รายงานสุขภาพการเงินของเอสเอ็มอีแบบเรียลไทม์ที่เข้าใจง่าย และนำไปใช้วางแผนการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ, สวัสดิการด้านสุขภาพเพื่อพนักงานของเอสเอ็มอีที่ยืดหยุ่นคล่องตัว และบริการให้สินเชื่อเอสเอ็มอีผ่านโมบายล์แอปพลิเคชัน เพื่อให้เอสเอ็มอีสามารถเติบโตได้มากกว่า และทีเอ็มบีเป็นธนาคารที่ลูกค้าชื่นชอบ และบอกต่อมากที่สุดในประเทศไทย
 
นางสาวชมภูนุช  ปฐมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้าเอสเอ็มอี ทีเอ็มบี กล่าวว่า “ด้วยปรัชญาของทีเอ็มบี คือ Make THE Difference ที่ต้องการสร้างการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ชีวิตลูกค้าดีขึ้น เราจึงมีความพิถีพิถันในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ และคิดอย่างรอบด้าน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าเอสเอ็มอีอย่างแท้จริง (Need-based) และให้สามารถใช้งานได้ง่าย และสะดวก (Simple & Easy) สร้างประสบการณ์ใหม่เพื่อเอสเอ็มอีสามารถเติบโตได้มากกว่า (Get MORE with TMB) ซึ่งในปีนี้ แผนธุรกิจของทีเอ็มบี เอสเอ็มอี ตั้งเป้ายอดการปล่อยสินเชื่อมูลค่า 27,000 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโต 60% จากปีที่ผ่านมา”
 
“ทั้งนี้จากการศึกษาอินไซต์ของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยพบว่า ปัญหาหลักที่เป็นอุปสรรคในการเติบโตของเอสเอ็มอีมีอยู่ 3 ข้อ คือ (1) ปัญหาธุรกรรมยุ่งเหยิง ทั้งการรับเงินจากลูกค้าและการจ่ายเงินให้คู่ค้า ด้วยเงินสด และการโอนเงินในหลายช่องทาง เช่น QR Code และเครื่อง EDC ซึ่งต้องใช้เวลานานในการรวบรวมและทำบัญชีกระทบยอด ทั้งยังมีโอกาสผิดพลาดได้ง่าย สรุปยอดไม่ตรง และสุดท้ายรายงานบัญชีที่ทำขึ้นมาก็ยังไม่สะท้อนภาพรวมสุขภาพการเงิน หรือสภาพคล่องทางการเงินของธุรกิจได้ ไม่สามารถนำไปใช้เพื่อวางแผนทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ (2) ปัญหาการบริหารบุคคล เนื่องจากธุรกิจเอสเอ็มอีเป็นองค์กรขนาดเล็ก พนักงานคือกลไกสำคัญเพื่อขับเคลื่อนให้ธุรกิจเดินหน้าได้อย่างราบรื่น ซึ่งการสร้างความสัมพันธ์อันดีและครองใจพนักงานนั้น สวัสดิการด้านสุขภาพเป็นปัจจัยอันดับต้นๆ ที่พนักงานให้ความสำคัญ แต่ทว่าธุรกิจเอสเอ็มอีมีข้อจำกัด เพราะไม่สามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพแบบกลุ่มให้กับพนักงานได้ ด้วยจำนวนพนักงานไม่เพียงพอต่อการซื้อขั้นต่ำของประกันสุขภาพแบบกลุ่ม แต่ถ้าจะซื้อประกันสุขภาพแบบรายบุคคลให้กับพนักงานก็ติดปัญหาที่มีค่าใช้จ่ายสูง ดังนั้นหากพนักงานประสบอุบัติเหตุหรือมีปัญหาสุขภาพ เจ้าของธุรกิจเอสเอ็มอีส่วนใหญ่จึงเข้ามารับผิดชอบค่าใช้จ่ายให้จึงไม่สามารถควบคุมต้นทุนด้านการบริหารบุคคลได้ (3) ปัญหาพลาดโอกาสทางธุรกิจ เนื่องจากเอสเอ็มอีเพียง 20% เท่านั้นที่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ เนื่องจากขาดความเข้าใจ และขาดข้อมูลที่น่าเชื่อถือเพื่อยื่นสมัครสินเชื่อ ส่งผลให้เอสเอ็มอี 27% เลือกใช้เงินทุนตั้งต้นธุรกิจจากการใช้บริการสินเชื่อและการกดเงินสดจากบัตรเครดิต โดยยอมแบกรับกับอัตราดอกเบี้ยที่สูงเกินความคุ้มค่าระหว่างดอกเบี้ยกับกำไรของธุรกิจ”

ข่าวเกี่ยวข้อง