เจนเนอราลี่โชว์ผลประกอบการและกำไรสุทธิปรับตัวแข็งแกร่งตอกย้ำสถานะเงินทุนที่มั่นคง
เจนเนอราลี่ กรุ๊ป เผยภาพรวมผลประกอบการ 9 เดือนแรกของปี 2025เติบโตอย่างต่อเนื่องจากแรงสนับสนุนของทุกสายธุรกิจ ทำกำไรสุทธิหลังปรับปรุงรวมกว่า 3.3 พันล้านยูโร หรือกว่า 1.25 แสนล้านบาท เบี้ยประกันภัยรับรวม 2.79 ล้านล้านบาท ด้าน “ประกันชีวิต” มีกระแสเงินสดรับสุทธิกว่า 3.96 แสนล้านบาท ด้วยจุดเด่นเน้นสร้างผลิตภัณฑ์คุ้มครองและสุขภาพ มุ่งการออมแบบที่ใช้เงินทุนน้อย มีให้เลือกหลากหลาย ลดความเสี่ยง ตอบโจทย์เทรนด์ผู้บริโภคยุคใหม่ทั่วโลก
มร.คริสเตียโน่ โบเรียน (Mr.Cristiano Borean) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน เจนเนอราลี่ กรุ๊ปกล่าวว่า “ภาพรวมธุรกิจของเจนเนอราลี่ กรุ๊ป ในช่วง 9 เดือน ของปี 2025 ที่ผ่านมา มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องจากแรงสนับสนุนของทุกสายธุรกิจที่ส่งผลต่อการเติบโตของผลการดำเนินงานในระดับสองหลัก ทั้งธุรกิจประกันชีวิตที่มีกระแสเงินสดรับต่อเนื่อง และธุรกิจประกันวินาศภัยที่มีการเติบโตของรายได้ที่แข็งแกร่ง และตอกย้ำความเป็นเลิศด้านเทคนิค รวมถึงอัตราส่วนรวมก่อนการคิดลดมูลค่าที่ปรับตัวดีขึ้น ด้วยการมุ่งดำเนินงานภายใต้แผนกลยุทธ์ Lifetime Partner 27: Driving Excellence เราจะเดินหน้าสร้างคุณค่าให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม โดยต่อยอดจากแรงส่งเชิงบวกนี้ ซึ่งสะท้อนผ่านกำไรต่อหุ้นที่เพิ่มขึ้น 16% เมื่อเทียบกับปีก่อน พร้อมด้วยงบดุลที่มั่นคง แหล่งสร้างกระแสเงินสดที่หลากหลาย และสถานะเงินทุนที่แข็งแกร่ง”
ด้วยแผนกลยุทธ์ “Lifetime Partner 27: Driving Excellence” ซึ่งให้ความสำคัญกับความเป็นเลิศด้านความสัมพันธ์กับลูกค้า ความสามารถหลัก และรูปแบบการดำเนินงานของกลุ่ม บริษัทมุ่งเร่งการเติบโตของธุรกิจประกันชีวิตอย่างมีผลกำไร โดยอาศัยฐานลูกค้าที่กว้างขวางและเครือข่ายการจัดจำหน่ายที่แข็งแกร่ง นอกจากนี้ กลุ่มยังจะยกระดับความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคเพื่อเพิ่มความสามารถในการทำกำไร และยกระดับประสิทธิภาพโดยการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรของทั้งกลุ่มให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในทุกช่วงของ value chain โดยยังคงให้ความสำคัญกับการทำให้ผลิตภัณฑ์ใช้งานง่ายและนวัตกรรม พร้อมนำเสนอผลิตภัณฑ์และโซลูชันที่ร่วมสมัย และบูรณาการ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงในแต่ละช่วงชีวิต
สำหรับธุรกิจประกันชีวิต มุ่งเน้นการคุ้มครองและสุขภาพ รวมถึงการออมแบบใช้เงินทุนน้อย เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันที่ตอบโจทย์ความเสี่ยงและรูปแบบการลงทุนที่หลากหลาย เพื่อประโยชน์ทั้งต่อลูกค้าและกลุ่มบริษัท สำหรับผลิตภัณฑ์ด้านความคุ้มครองและสุขภาพ มุ่งให้บริการแบบครบวงจรตั้งแต่ต้นจนจบ เพื่อยกระดับประสบการณ์ลูกค้า ส่วนผลิตภัณฑ์แบบไฮบริดและยูนิตลิงค์ จะยังคงเป็นความสำคัญอันดับต้น ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการด้านความมั่นคงทางการเงินที่เพิ่มขึ้น โดยมีเป้าหมายหลักสำหรับเป็นกลุ่มการออมและวัยเกษียณอายุ
ธุรกิจประกันวินาศภัย (P&C) เน้นการเพิ่มการเติบโตอย่างมีกำไร โดยมุ่งเน้นธุรกิจกลุ่มที่ไม่ใช่ประกันรถยนต์ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งและส่วนแบ่งตลาด โดยเฉพาะในประเทศที่มีศักยภาพการเติบโตสูง โดยเจนเนอราลี่ กรุ๊ป ยังคงยืนยันและเพิ่มระดับความยืดหยุ่นในการปรับอัตราเบี้ยประกัน ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการความคุ้มครองภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เพิ่มขึ้น เพื่อรองรับความต้องการเฉพาะของลูกค้า พร้อมให้บริการป้องกัน ช่วยเหลือ และคุ้มครองที่ทันสมัย ด้วยการใช้เทคโนโลยี สำหรับธุรกิจบริหารสินทรัพย์และความมั่งคั่ง(Asset & Wealth Management) ธุรกิจ Asset Management จะเดินหน้าขยายผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะในกลุ่มสินทรัพย์จริงและสินทรัพย์เอกชน เพิ่มศักยภาพด้านการจัดจำหน่าย และขยายธุรกิจสู่ตลาดใหม่ ๆ โดยได้รับแรงสนับสนุนเพิ่มเติมจากการเข้าซื้อ Conning Holdings Limited ส่วนธุรกิจ Wealth Management กลุ่ม Banca Generali จะยังคงมุ่งสู่เป้าหมายด้านขนาดธุรกิจ ความสามารถในการทำกำไร และการมอบผลตอบแทนที่สูงให้แก่ผู้ถือหุ้น
โดยในช่วง 9 เดือนของปี 2025 ผ่านมา เจนเนอราลี่ กรุ๊ป สามารถสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมี เบี้ยประกันภัยรับรวม (Gross Written Premium) อยู่ที่ประมาณ 2.79 ล้านล้านบาท (73.1 พันล้านยูโร) เพิ่มขึ้น 3.7% ขณะที่ ธุรกิจประกันชีวิต (Life Net Inflow) มียอดเงินไหลเข้าสุทธิ อยู่ที่ประมาณ 3.96 แสนล้านบาท (10.4พันล้านยูโร) ด้านธุรกิจบริหารสินทรัพย์และความมั่งคั่ง(Asset & Wealth Management) ที่ยังคงเติบโตในทิศทางบวก อยู่ที่ 32.16 พันล้านบาท (843 ล้านยูโร) เพิ่มขึ้น 0.7% ส่งผลให้ผลการดำเนินงาน (Operating Result) เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเป็น 2.27 แสนล้านบาท (5.9 พันล้านยูโร) เพิ่มขึ้น 10.1% จากผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของธุรกิจประกันวินาศภัย (P&C) และการสนับสนุนในเชิงบวกจากทุกกลุ่มธุรกิจ
ทำให้มีกำไรสุทธิที่ปรับปรุงแล้ว(Adjusted Net Result) อยู่ที่ประมาณ 1.25 แสนล้านบาท (3.3 พันล้านยูโร) เพิ่มขึ้น 14 %) ขณะที่กำไรต่อหุ้นที่ปรับปรุงแล้ว (Adjusted EPS) เพิ่มขึ้นเป็น 82.41 บาทต่อหุ้น (2.16 ยูโรต่อหุ้น) เพิ่มขึ้น 19% สะท้อนถึงศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงและต่อเนื่องให้กับผู้ถือหุ้น
เจนเนอราลี่ กรุ๊ป ยังคงรักษาสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง ด้วยอัตราส่วนการดำรงเงินกองทุน (Solvency Ratio) อยู่ที่ 214% (เทียบกับ 210% ณ สิ้นปี 2024) ซึ่งสะท้อนถึงศักยภาพในการบริหารความเสี่ยง การจัดสรรทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และความพร้อมในการรองรับการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว
ดูข้อมูลผลประกอบการ 9 เดือนแรกปี 2025 เพิ่มเติมได้ที่ https://www.generali.com/investors/share-information-analysts/equity-analysts-and-consensus/Generali-Consensus
Share on Line
